วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
พระพุทธศาสนาในประเทศเนปาล
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเนปาล
พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเนปาลโดยผ่านทางประเทศอินเดียแต่เดิมนั้นประเทศเนปาลเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินเดีย สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า คือ สวนลุมพินีอยู่ในเขตประเทศเนปาลปัจจุบัน
ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าเคยเสด็จไปโปรดพระญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์และทรงห้ามพระญาติฝ่ายศากยะกับฝ่ายโกลิยะวิวาทกัน เรื่องการผันน้ำเข้านา ซึ่งหมายความว่าเคยเสด็จในเขตประเทศเนปาลปัจจุบัน หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานพระอานนท์ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาในบริเวณนั้น แสดงว่าชาวเนปาลส่วนหนึ่งนับถือพระพุทธศาสนามานานแต่ครั้งพุทธกาลแล้ว
ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชได้พระราชทานพระราชธิดาพระนามว่า จารุมตี ให้แก่ขุนนางใหญ่ชาวเนปาล พระเจ้าอโศกและเจ้าหญิงจารุมตีได้ทรงสร้างวัดและเจดีย์หลายแห่ง ซึ่งยังคงปรากฏอยู่ที่นครกาฐมาณฑุในปัจจุบัน
ในสมัยที่ชาวมุสลิมเข้ารุกรานแคว้นพิหาร และเบงกอล ในประเทศอินเดีย พระภิกษุจากอินเดียต้องหลบหนีภัยเข้าไปอาศัยในเนปาล ซึ่งภิกษุเหล่านั้นก็ได้นำคัมภีร์อันมีค่ามากมายไปด้วย และมีการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีจนถึงทุกวันนนี้ และเมื่อมหาวิทยาลัยนาลันทา (ในประเทศอินเดีย) ถูกทำลายซึ่งทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมสูญไปจากประเทศอินเดียแล้ว ก็ส่งผลให้พระพุทธศาสนาในประเทศเนปาลพลอยเสื่อมลงด้วย คุณลักษณะพิเศษที่เป็นเครื่องหมายประจำพระพุทธศาสนา เช่น ชีวิตพระสงฆ์ในวัดวาอาราม การต่อต้านการถือวรรณะ การปลดเปลื้องความเชื่อไสยศาสตร์ต่างๆ เป็นต้นก็เลือนหายไป
พระพุทธศาสนาในประเทศเนปาลในยุคแรกเป็นพระพุทธศาสนาแบบดั้งเดิมหรือแบบเถรวาทต่อมาเถรวาทเสื่อมสูญไป เนปาลได้กลายเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนามหายานนิกายตันตระ ซึ่งใช้คาถาอาคมและพิธีกรรมแบบไสยศาสตร์ นอกจากนี้ได้มีนิกายพุทธปรัชญาสำนักใหญ่ๆ เกิดขึ้นอีก ๔ นิกาย คือ สวาภาวิภะ ไอศวริกะ การมิกะ และยาตริกะ ซึ่งแต่ละนิกายก็ยังแยกเป็นอีกหลายสาขา แต่นิกายต่างๆเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานเข้าด้วยกันของความคิดทางปรัชญาหลายๆหย่าง เท่าที่เกิดขึ้นตามอิทธิพลของพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาในประเทศเนปาลในปัจจุบัน
ได้มีการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาฝ่ายเถระวาทขึ้นในประเทศเนปาลโดยส่งภิกษุสามเณรไปศึกษาในประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท เช่น ประเทศไทย ประเทศพม่า ประเทศศรีลังกา โดยเฉพาะประเทศไทยนั้น พระภิกษุสามเณรชาวเนปาล ซึ่งได้บรรพชาและอุปสมบทแบบเถรวาทได้มาศึกษาพระปริยัติธรรม และศึกษาในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ๒ แห่ง คือ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหามกุฏราชวิทยาลัย นอกจากนั้นคณะสงฆ์เนปาลยังได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชแห่งประเทศไทยไปให้บรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวเนปาล ณ กรุงกาฐมาณฑุ พร้อมทั้งทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดชาวเนปาล นอกจากนี้สมาคมธัมโมทัยสภา ได้อุปถัมภ์ให้พระภิกษุจากประเทศศรีลังกาและพระภิกษุสงฆ์ในประเทศเนปาลที่ได้รับการอบรมมาจากประเทศศรีลังกา ออกเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง พร้อมทั้งมีการแปลพระสูตรจากภาษาบาลีเป็นภาษาถิ่น พิมพ์ออกเผยแพร่เป็นจำนวนมากด้วย
ป้ายกำกับ:
http://www.snr.ac.th/sakyaputto/nepal.htm
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น